หมายถึง เครื่องหมายใช้แทนเสียงที่เปล่งออกมา ตามหลักภาษา ถือว่าพยัญชนะจำเป็นต้องอาศัยสระจึงจะออกเสียงได้


รูปสระในภาษาไทยมี 21 รูป ซึ่งรูปสระเหล่านี้จะนำไปประกอบเป็นรูปสระที่ใช้แทนเสียงสระ
1. ะ เรียกว่า วิสรรชนีย์ หรือ นมนางทั้งคู่
2. ั เรียกว่า ไม้หันอากาศ, หางกังหัน หรือ ไม้ผัด
3. ็ เรียกว่า ไม้ไต่คู้ หรือ ไม้ตายคู้
4. า เรียกว่า ลากข้าง
5. ิ เรียกว่า พินทุ์อิ หรือ พินทุอิ
6. ่ เรียกว่า ฝนทอง
7. ํ เรียกว่า นิคหิต, นฤคหิต หรือ หยาดน้ำค้าง
8. " เรียกว่า ฟันหนู หรือ มูสิกทันต์
9. ุ เรียกว่า ตีนเหยียด หรือ ลากตีน
10. ู เรียกว่า ตีนคู้
11. เ เรียกว่า ไม้หน้า
12. ใ เรียกว่า ไม้ม้วน
13. ไ เรียกว่า ไม้มลาย
14. โ เรียกว่า ไม้โอ
15. อ เรียกว่า ตัวออ
16. ย เรียกว่า ตัวยอ
17. ว เรียกว่า ตัววอ
18. ฤ เรียกว่า ตัวรึ
19. ฤๅ เรียกว่า ตัวรือ
20. ฦ เรียกว่า ตัวลึ (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว)
21. ฦๅ เรียกว่า ตัวลือ (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว)


สระ 21 รูปสามารถเข้ามาประกอบกันเป็นเสียงสระได้ 32 เสียง โดยสะกดด้วยรูปสระพื้นฐานหนึ่งตัวหรือหลายตัวร่วมกัน ดังนี้
เมื่อเวลาออกเสียงสระ เช่น อะ อา เอะ เอ เอียะ เอีย จะออกเสียงแตกต่างกัน บางตัวออกเสียงสั้น บางตัวออกเสียงยาว จึงแบ่งสระตามอัตราเสียงเป็น 2 จำพวก ได้แก่
สระเสียงสั้น หรือ รัสสระ ได้แก่ สระที่ออกเสียงสั้น คือ อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอาะ เออะ เอียะ เอือะ อัวะ ฤ ฦ อำ ไอ ใอ เอา
สระเสียงยาว หรือ ทีฆสระ ได้แก่ สระที่ออกเสียงยาว คือ อา อี อื อู เอ แอ โอ ออ เออ เอีย เอือ อัว ฤๅ ฦๅ


เสียงสระในภาษาไทยแบ่งตามฐานการออกเสียงออกเป็น 3 ชนิด คือ สระเดี่ยว สระประสม และสระเกิน ดังนี้


> เอียะ ประสมจากเสียงสระ อี กับ อะ
> เอีย ประสมจากเสียงสระ อี กับ อา
> เอือะ ประสมจากเสียงสระ อือ กับ อะ
> เอือ ประสมจากเสียงสระ อือ กับ อา
> อัวะ ประสมจากเสียงสระ อู กับ อะ
> อัว ประสมจากเสียงสระ อู กับ อา

- อำ ประสมจากเสียงสระ อะ และพยัญชนะ ม สะกด (อัม) เช่น ขำ บางครั้งออกเสียงยาว (อาม) เช่น น้ำ
- ใอ ประสมจากเสียงสระ อะ และพยัญชนะ ย สะกด (อัย) เช่น ใจ บางครั้งออกเสียงยาว (อาย) เช่น ใต้
- ไอ ประสมจากเสียงสระ อะ และพยัญชนะ ย สะกด (อัย) เช่น ไหม้ บางครั้งออกเสียงยาว (อาย) เช่น ไม้
- เอา ประสมจากเสียงสระ อะ และพยัญชนะ ว สะกด (เอา) เช่น เกา บางครั้งออกเสียงยาว (อาว) เช่น เก้า
- ฤ ประสมจากเสียงพยัญชนะ ร และสระ อึ (รึ) เช่น ฤกษ์ บางครั้งเปลี่ยนเสียงเป็น ริ เช่น กฤษณะ หรือ เรอ เช่นฤกษ์
- ฤๅ ประสมจากเสียงพยัญชนะ ร และสระ อือ (รือ)
- ฦ ประสมจากเสียงพยัญชนะ ล และสระ อึ (ลึ)
- ฦๅ ประสมจากเสียงพยัญชนะ ล และสระ อือ (ลือ)
สระต่าง ๆ เมื่อประสมกับพยัญชนะต้น จะอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน ได้แก่
- ไม่ปรากฏรูปสระ ได้แก่ สระโอะเมื่อมีตัวสะกด (โ–ะ) เช่น คน รก จง
- ข้างหน้าพยัญชนต้น ได้แก่ สระเอ (เ-) สระแอ (แ-) สระโอ (โ-) สระใอ (ใ-) และสระไอ (ไ-) เช่น เก เซ เข แล แพ แก โต โพ โท ใกล้ ใคร ใหญ่ ไป ไซ ไส
- ข้างหลังพยัญชนะต้น ได้แก่ สระอะ (-ะ) สระอา (-า) สระออ (-อ) และ ร หัน (-รร) เช่น กะ จะ ปะ มา กา ตา ขอ รอ พอ
- ข้างบนพยัญชนะต้น ได้แก่ สระอือเมื่อมีตัวสะกด (-ื) สระอิ (-ิ) สระอี (-ี) สระอึ (-ึ) และไม้หันอากาศ (–ั) เช่น บิ สิ มิ ปี ดี มี หึ สึ หัน กัน ปัน
- ข้างล่างพยัญชนะต้น ได้แก่ สระอุ (-ุ) และสระอู (-ู) เช่น ผุ มุ ยุ ดู รู งู
- ข้างหน้าและข้างหลังพยัญชนะต้น ได้แก่ สระเอะ (เ-ะ) สระแอะ (แ-ะ) สระโอะ (โ-ะ) สระเอาะ (เ-าะ) สระเออะ (เ-อะ) สระเออ (เ-อ) และสระเอา (เ-า) เช่น เละ เตะ เกะ และ แพะ แกะ โปะ โละ เลอะ เถอะ เจอะ เจอ เธอ เรอ เกา เผา เรา
- ข้างหน้าและข้างบนพยัญชนะต้น ได้แก่ สระเอะเมื่อมีตัวสะกด (เ–็) สระแอะเมื่อมีตัวสะกด (แ–็) สระเออะและสระเออเมื่อมีตัวสะกด (เ–ิ)
- ข้างบนและข้างหลังพยัญชนะต้น ได้แก่ สระอืเมื่อไม่มีตัวสะกด (-ือ) สระอัวะ (-ัวะ) สระอัว (-ัว) สระอำ (-ำ) สระเอา (เ-า) และสระเอาะเมื่อมีตัวสะกด (–็อ) เช่น มือ ถือ ลือ ผัวะ ยัวะ ตัว รัว หัว รำ ทำ จำ
- ข้างหน้า ข้างบน และข้างหลังพยัญชนะต้น ได้แก่ สระเอียะ (เ-ียะ) สระเอีย (เ-ีย) สระเอือะ (เ-ือะ) และสระเอือ (เ-ือ) เช่น เผียะ เพียะ เกียะ เสีย เลีย เปีย เสือ เรือ เจือ
- สระคงรูป คือการเขียนสระตามรูปเดิมเมื่อประสมอักษร เช่น กะ เตะ โปะ เคาะ กอ กำ หัว เป็นต้น สระ -ะ, เ-ะ, โ-ะ … ในคำที่ยกมาไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปเมื่อประสมอักษร
- สระเปลี่ยนรูป คือ สระที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปเมื่อประสมอักษร เช่น กับ ( ก + ะ + บ) เจ็บ (จ + เ-ะ + บ) เกิน (ก + เ-อ + น ) เป็นต้น
- สระลดรูป คือ สระที่เขียนลดรูปเมื่อประสมอักษร เช่น งก (ง + โ-ะ + ก)
-----------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น